
จากการแพร่ระบาดของโปรแกรมเรียกค่าไถ่ WannaCry หรือ WannaCryptor ที่ใช่ช่องโหว่ของ EternalBlue ในการแพร่กระจาย ซึ่ง EternalBlue เป็นของ NSA ที่ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า The Shadow Broker ขโมยออกมา
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมากระบวนการเดียวกันถูกแฮกเกอร์นำไปใช้ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อเข้ารหัสไฟล์ ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่วันหลังจาก EternalBlue หลุดออกมาจาก NSA ทาง ESET สามารถตรวจจับไฟล์นี้ได้ในชื่อ Win32/CoinMiner.AFR และ Win32/CoinMiner.AFU
ปริมาณสูงสุดที่ทาง ESET ตรวจจับได้เป็นช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนการแพร่ระบาดของโปรแกรมเรียกค่าไถ่ WannaCry โดยส่วนมากจับได้ในประเทศรัสเซีย, ไต้หวัน และยูเครน

โปรแกรม CoinMiner ของแฮกเกอร์ค่อนข้างใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะจึงอาจทำให้คอมพิวเตอร์บางเครื่องทำงานช้าลงมากจนถึงค้างไป
การโจมตีนี้ปิดพอร์ต 445 เพื่อป้องกันการติดไวรัสซ้ำด้วยพอร์ตเดียวกัน แต่ความโชคดีในความโชคร้ายก็คือ คอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสตัวนี้จะไม่ได้โปรแกรมเรียกค่าไถ่ WannaCry เล่นงาน
ความรุนแรงของ WannaCryptor
ณ วันที่โปรแกรมเรียกค่าไถ่ WannaCry ระบาด ระบบ ESET LiveGrid® ได้รับรายงานมากจากผู้ใช้มากกว่า 66,000 ครั้งเกี่ยวกับการโจมตีของ WannaCryptor
การโจมตีของ WannaCry มีเป้าหมายหลักเป็นรัสเซีย ตามมาด้วยยูเครนและไต้หวัน
ความโด่งดังของ WannaCry ทำให้แฮกเกอร์หลายสำนักในการแพร่กระจายไวรัสอีกครั้ง อย่าง Nemucod อีกช่องทางการแพร่กระจายโปรแกรมเรียกค่าไถ่ก็มีปริมาณมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม WannaCry ปลอมที่เพียงเอาหน้าตาของโปรแกรมเรียกค่าไถ่ WannaCry มาใช้โดยไม่มีความสามารถในการเข้ารหัสไฟล์
วิธีป้องกันตัว
Author: ONDREJ KUBOVIČ
Source: https://www.welivesecurity.com/2017/05/17/wannacryptor-wasnt-the-first-to-use-eternalblue/
Translated by: Worapon H.
ขอบคุณที่มา : blog.eset.co.th
โปรโมชั่นพิเศษโปรแกรมป้องกันไวรัสเรียกค่าไถ่ WannaCry ที่ได้ผลจริง !!