
สำหรับคนที่เปิดร้านมาสักพักหนึ่ง คงสงสัยว่าเมื่อไหร่จะเป็นสัญญาณในการขยับขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกขั้นซะที อย่างแรกที่ต้องมั่นใจ (เพื่อก้าวที่มั่นคง) สำหรับการขยับขยายคือการมีฐานที่แข็งแรง ทั้งเรื่องความนิ่งของตัวธุรกิจที่กำลังบริหารอยู่ และฐานของลูกค้า รวมไปถึงรายได้ที่มาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีสัญญาณเหล่านี้มาแล้วก็ถึงเวลาเป่านกหวีด ออกไปลุยในอีกระดับของร้านค้าออนไลน์ได้เลย
วันนี้มี 2 วิธีมานำเสนอในการขยับขยายธุรกิจของเหล่าพ่อค้าแม่ค้ากัน
1. สินค้าเดิม ตลาดใหม่
การเติบโตขั้นแรกของธุรกิจการค้าออนไลน์ก็คือหนทางที่จะขายสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้ได้มากกว่าเดิมในตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่า โดยการเสนอสินค้าหรือบริการของเราให้กับลูกค้าในสถานที่อื่นๆ บ้าง หรือที่ตามภาษาชาวบ้านทั่วไปเขาเรียกกว่า การขยายสาขาเพิ่ม นั่นเอง ซึ่งมีหลายๆ ร้านค้าออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงสิบปีที่มาจากการใช้กลยุทธ์พัฒนาการตลาดเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญในการเติบโตของตัวเอง
ตัวอย่างเช่น ธุรกิจของแบรนด์เสื้อผ้าคนไทย แต่แทนที่จะขายในประเทศอย่างเดียวก็เพิ่มฐานลูกค้าด้วยการส่งออกขายยังหลายๆ ประเทศในแถบเอเชียอีกด้วย หรือแม้แต่ร้านขายข้าวแกงก็สามารถใช้นำกลยุทธ์นี้มาปรับใช้ได้ไม่ยาก จากที่เคยขายให้กับผู้ที่รับประทานในร้านและซื้อกลับไปทานที่บ้าน ก็สามารถขยับขยายให้กลายเป็นธุรกิจข้าวกล่องที่มีบริการส่งถึงบ้าน หรือรับทำข้าวกล่องส่งตามงานเลี้ยง งานสัมมนาต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าเดิมได้มากขึ้น
2. สินค้าใหม่ ลูกค้าเดิม
นี่คือกลยุทธ์สุดแสนคลาสสิค ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสินค้าใหม่ขึ้นมา โดยอ้างอิงจากสินค้าที่มีอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้าที่ปกติใช้สินค้าเดิมของเราอยู่ให้มากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายที่สุดก็เป็นสินค้าตามท้องตลาดทั่วไปอย่างขนมขบเคี้ยวที่ทำออกมาหลายๆ รสชาติเช่น รสดั้งเดิม รสน้ำผึ้งมะนาว รสเก็กฮวย และอื่นๆ
การพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายจะช่วยให้ลูกค้าไม่เบื่อสินค้าที่มีอยู่เพียงไม่กี่แบบ ซึ่งถ้าเราเลือกได้นั้นเราคงอยากที่จะขายสินค้าใหม่ๆ ให้กับลูกค้าเดิมมากกว่า นั่นเป็นเพราะการขายสินค้าต่างๆ ให้กับฐานลูกค้าที่เรามีอยู่แล้วย่อมมีความเสี่ยงน้อยกว่าการที่เข้าไปเรียนรู้และพัฒนาสินค้าใหม่ไปพร้อมๆ กับการศึกษาตลาดใหม่ที่เราต้องการ
เห็นไหมว่าไม่ยากเลย สำหรับการต่อยอดของธุรกิจทั้งหลายไปอีกระดับอย่างมั่นคง ถ้าหากเราเริ่มก้าว ไต่ระดับทางธุรกิจออนไลน์มาเรื่อย ๆ ด้วยระยะก้าวที่เหมาะสม และก้าวอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งอาจจะมีผิดพลาดบ้าง ก็ถือเสียว่าเป็นราคาค่าบทเรียนที่ไม่ควรมองข้ามไป นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปในภายภาคหลังดีกว่า
แหล่งที่มา http://blog.sellsuki.com/increase-sale-volume/